วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปายแล้ว ปายอีก

22-25 ตุลาคม 2553
เส้นทาง ~  แม่ฮ่องสอน - ปางอุ๋ง - ปาย -  เชียงใหม่
ไปปาย

เป็นคนที่เวลาชอบอะไรแล้ว ก็มักทำได้ซ้ำ ๆ ไม่รู้จักเบื่อ
การเดินทางครั้งนี้ก็เช่นกัน
"อยากไปปาย" เพื่อนเมืองคอนเปรยสั้น ๆ  
แค่นั้นเอง การเดินทางไปปายอีกครั้งก็เริ่มต้น
เพื่อนอีกสองคนแถวปริมณฑลเริ่มวางแผนการเดินทาง
คนหนึ่งจัดการเรื่องการเดินทางไป-กลับ
ส่วนอีกคนจัดการเรื่องการเดินทางเมื่อถึงแม่ฮ่องสอน รวมทั้งที่พัก


 การเดินทางครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน คือมีเวลามากขึ้น จึงได้เที่ยวในเมืองแม่ฮ่องสอน และอาจได้เที่ยวเชียงใหม่เล็กน้อยก่อนกลับ แผนการคร่าว ๆ เป็นดังนี้
21 ต.ค.53 สองทุ่ม ออกเดินทางจากหมอชิต โดยสมบัติทัวร์ ภายหลังทราบว่านั่นเป็นรถทัวร์บริษัทเดียวที่ไปถึงแม่ฮ่องสอน
22 ต.ค.53  เก้าโมงเช้า ถึงแม่ฮ่องสอน นัดเจอคุณจ๊อดที่ว่าจ้างให้พาพวกเราเที่ยวในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และไปส่งที่ปางอุ๋งตอนค่ำ
23 ต.ค.53 เดินเล่นที่ปางอุ๋งแบบสบาย ๆ จนกระทั่งใกล้เที่ยงลงจากปางอุ๋ง มาที่ขนส่งจังหวัดแม๋ฮ่องสอนเพื่อเดินทางต่อไปปายโดยรถตู้ จะถึงปายตอนเย็น ๆ หลังจากนั้นใช้ชีวิตที่ปาย 
 25 ต.ค.53 เก้าโมงเช้า เดินทางจากปายไปเชียงใหม่โดยรถตู้ ถึงเชียงใหม่ราวเที่ยง  หลังจากนั้นขึ้นดอยสุเทพ และเดินทางกลับกรุงเทพโดยเครื่องบิน



หลับ ๆ ตื่น ๆ บนรถทัวร์มาทั้งคืน ราวตีสองเริ่มรู้สึกว่าตัวเริ่มสะบัดไปสะบัดมา รถทัวร์แล่นไปตามถนนที่โค้งไปโค้งมา มองออกไปนอกหน้าต่างมีน้ำฝนเกาะพราวที่หน้าต่างไปเที่ยวปลายฝนต้นหนาว เจอฝนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ฉันพยายามปลอบใจตัวเอง

เก้าโมงกว่า ๆ ฝนยังพรำ พวกเราก็มาถึงขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฉันจัดแจงโทรหาคุณจ๊อดให้มารับตามที่นัดแนะไว้ คุณจ๊อดมาพร้อมรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ และน้องตุ้มซึ่งจะเป็นคนขับรถให้พวกเราในวันนี้ คุณจ๊อดพาเราไปที่ร้านอาหารของเขาที่ตั้งอยู่ริมน้ำตรงข้ามหน้าวัดจองกลาง พวกเราไปล้างหน้าล้างตาและดื่มกาแฟที่ร้านของคุณจ๊อด พอเสร็จจากภาระกิจ จึงขอเดินเล่นบริเวณริมน้ำ และ วัดจองกลาง


พระธาตุดอยกองมู
หากยืนอยู่ในเมืองแม่ฮ่องสอน จะเห็นพระธาตุสีขาวเด่นเป็นสง่า หากไม่ได้ขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยกองมู คงพลาดเป็นหนที่สอง การขึ้นไม่ลำบากแต่อย่างใด สามารถนำรถยนต์ขึ้นได้ และเดินต่อขึ้นบันไดพอหอบนิด ๆ  ก็ถึงแล้ว








วิวมุมกว้างจากพระธาตุดอยกองมู เมืองเล็ก ๆ สนามบินเล็ก ๆ  ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองที่สงบ และน่าอยู่จริง ๆ ว่ากันว่าที่นี่ไม่มีโจรขโมยเลย
บ้านห้วยเสือเฒ่า
น้องตุ้มพาพวกเราลัดเลาะไปตามทางเล็ก ๆ ออกนอกเมืองไปเล็กน้อย ไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
เราพบสาวน้อยกะเหรี่ยงคอยาวนางแรกนั่งทอผ้า เธอส่งยิ้มหวานมา เราส่งยิ้มหวานตอบเช่นกัน เราเดินต่อไปเรื่อย แต่แล้วเราก็มาสะดุดที่เสียงกีตาร์ พร้อมเสียงเพลงที่เนื้อหาไม่รู้จัก เราจึงหยุดขอเธอถ่ายรูป เธอใจดีตั้งท่าเก๋ ๆ ให้เราถ่ายรูป เข้าใจว่านั่นคงเป็นท่าประจำของเธอ ก่อนเดินต่อไป เธอเอ่ยปากขอให้เราช่วยซื้อของที่ระลึก เธอนำเสนอกำไลทองเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบชนิดเดียวกับห่วงคอของเธอ
"ฟ้าจะผ่าไหมจ๊ะ" ฉันถามไปด้วยความไม่รู้
"ไม่หรอกจ้ะ ถ้าผ่า ที่นี่คงตายหมดทั้งหมู่บ้านแล้วจ้ะ" เหตุผลของเธอน่าเชื่อถือจริง ๆ
   
ในหมู่บ้านนี้นอกจากมีกะเหรี่ยงคอยาวแล้ว ยังมีอีกชนเผ่าหนึ่งนั่นคือหูใหญ่ ผู้หญิงจะเจาะหูแล้วนำห่วงเงินใหญ่ ๆ ใส่ไว้ ยิ่งอายุมากขึ้น เปลี่ยนห่วงที่ใส่ให้ใหญ่ขึ้น รูหูที่เจาะมีความกว้างขึ้นเรื่อย ๆ  แลดูเหมือนสามารถนำกำไลไปใส่ได้ทีเดียว
หนูน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ก็มีรูหูที่ใหญ่ ฉันเอ่ยปากขอถ่ายรูปหน่อย เธอยิ้มน้อย ๆ ให้  เมื่อฉันบอกว่าขอซื้อโปสการ์ดหน่อย รอยยิ้มเธอกว้างขึ้น
ภูโคลน
สถานที่ยอดนิยมแห่งหนึ่งในแม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโคลนธรรมชาติที่อุดมด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ช่วยขจัดสารพิษตกค้างและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้ผิวพรรณสะอาดสดใส

ไหน ๆ ก็มาถึงที่แล้ว ก็พอกสักหน่อยน่า....
น้ำตกผาเสื่อ
ไปต่ออีกไม่ไกลนัก ก็ได้ยินเสียงน้ำตกซ่า ๆ น้ำตกอยู่ริมทางเอง จอดรถ ก็เห็นน้ำตกเลย ปลายฤดูฝนแบบนี้ น้ำตกสวยท่ามกลางป่าเขียวครึ้ม ทำให้รู้สึกสดชื่นมากจริง ๆ

หมู่บ้านรักไทย
มาถึงบ้านรักไทยก็เกือบจะเย็น เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน บ้านเรือนที่อาศัยอยู่กันเป็นบ้านดิน พวกเราเริ่มต้นสัมผัสวิถีชาวบ้านด้วยข้าวซอยยูนนานรสชาติดี เสิร์ฟพร้อมชาจีนหอมกรุ่น อากาศเย็น ๆ หลังฝนแบบนี้ได้กินข้าวซอย ดื่มชาร้อน ๆ  รู้สึกสบายดีจัง

จากร้านข้าวซอย เราเดินชิมชาและซื้อชา ตามร้านต่าง ๆ สักครู่ ก็ชวนกันเดินไปไกลสักหน่อย พบชิงช้าใหญ่ตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศดีจัง ถ้าไม่ติดที่พื้นเฉอะแฉะหลังฝน คงได้โล้ชิงช้ากันสนุกแน่เลย

ปางอุ๋ง
ในที่สุดค่ำวันนี้ ปลายทางที่ปางอุ๋ง
พวกเราได้จองบ้านพักผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องจองล่วงหน้าเนื่องจากต้องจำกัดคนขึ้นปางอุ๋งในฤดูท่องเที่ยว เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวมามากเกินไป

พวกเราพักที่บ้านนายศักดิ์ บรรยากาศดีไม่ไกลจากอ่างเก็บน้ำ แถมอยู่ติดวัดเสียด้วย รู้สึกสบายใจ อย่างไรบอกไม่ถูก
ค่ำคืนนั้น อากาศหนาว ฉันและเพื่อนอีกสองคนนอนฟังเสียงฝนพรำอุ่นสบายในกระท่อมเล็ก รู้สึกตัวอีกที ก็ใกล้รุ่ง ฟ้ายังมืด ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเปรี้ยงปร้าง เป็นระยะ ๆ เกิดอะไรขึ้น ฉันคิดในใจ
ทั้งค่ำเมื่อวานและเช้าวันนี้ ฝากท้องไว้ที่บ้านลุงปาละ เช้าวันนี้ได้ข้าวต้มหมูร้อน พร้อมกาแฟร้อนหอมกรุ่น ผลผลิตของลุงเอง เป็นเช้าที่ดีจริง ๆ


หยดน้ำฝนใส ๆ ที่ชายคาศาลาบ้านลุงปาละ

ฉันและเพื่อนไม่ลืมที่จะถามลุงปาละเรื่องเสียงดังเปรี้ยงปร้างเมื่อคืน ได้คำตอบสบายใจพร้อมเสียงหัวเราะ "ไม่มีอะไรหรอก คืนก่อนวันออกพรรษา ก็เป็นอย่างนี้"  
รู้สึกดีขึ้น เพราะตอนแรกคิดว่าทหารพม่าและไทยต่อสู้กันเสียนี่
  
วิวยอดนิยม
วันนี้ฟ้าหลัว ไม่เห็นแสงอาทิตย์ มีแต่หมอกบาง ๆ สนสูง ๆ และฝนพรำ ๆ

หงส์ดำ พระเอกของปางอุ๋ง
เมื่อก่อนมีทั้งหงส์ขาวและดำ ตอนนี้เศร้าใจจัง หงส์ขาวจากไปแล้ว


ปาย
รถตู้แล่นบนเส้นทางโค้ง ๆ หลายร้อยโค้งจากแม่ฮ่องสอน พาพวกเราเดินทางมาถึงปายในเย็นวันนั้น ได้เข้าพักที่ดวงเกสเฮ้าส์ อยู่ตรงหน้าขนส่งปาย หาง่าย สะอาด ราคาประหยัด ใช้เวลายามค่ำเดินเล่นถนนคนเดิน

อาหารเช้า เป็นโจ๊ก กาแฟโบราณ ที่สำคัญขาดไม่ได้เลย ปาท่องโก๋งาดำ เนื้อนุ่ม ที่ตลาดเช้าปาย

พวกเราเช่ามอเตอร์ไซด์สองคัน สำหรับสามคน ได้มาพร้อมแผนที่ นักบิดช้า ๆ ก็ออกเริ่มทางตามแผนที่ไม่มีผิดเพี้ยน
บ้านสีเหลือง Coffee in Love
  
สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
รถเต่าสีฟ้าน่ารักข้างทาง  ขอถ่ายรูปหน่อยนะ
วัดพระธาตุแม่เย็น

หมู่บ้านสันติชล

อาหารเที่ยงที่หมู่บ้านสันติชล ขาหมูยูนนาน หมันโถว ผัดผัก พร้อมข้าวคนละถ้วย  

น้ำตกหมอแปง

วัดน้ำฮู

All About Coffee
ชาร้อน  พร้อมเค้กแครอท และบีนอฟฟี่ ที่เจ้าของร้านแนะนำว่าเป็นลายเซ็นของร้านนี้ทีเดียว

เดินเล่นริมน้ำปาย

ค่ำนี้เดินเล่นที่คนถนนคนเดินอีกครั้ง

รุ่งเช้าออกเดินทางจากปายมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ ราวเที่ยงก็ถึง มีเวลาเหลือสามสี่ชั่วโมง ตัดสินใจขึ้นดอยสุเทพ ไหว้พระก่อนกลับ หวังว่าเป็นศิริมงคลก่อนเดินทางไกล
แต่กรรมเก่าคงมากไป โชคดีที่ไหว้พระมาก่อน จึงรอดชีวิตกลับมา
มิหนำซ้ำ เวลานั้นยังมิรู้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวขนาดนี้
ตามข่าว  "หวิดดับยกลำ..................................................................."


อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งนี้ สนุกจริง ๆ



2 ความคิดเห็น:

  1. ไปปายครั้งหน้า...
    อยากให้ hb7 พาไปเพราะถือว่า
    เป็นผู้ชำนาญการพิเศษ

    ตอบลบ
  2. ไม่ได้ชำนาญอะไรมากมาย
    ไว้อากาศเย็น ๆ ใจเย็น ๆ เมื่อไร ก็ไปกันเลยนะ

    ตอบลบ